เมื่อซื้อบ้านใหม่เป็นกันหรือไม่ ไม่รู้จะเอาขนาดไหนดี? คิดแล้วคิดอีก กลัวว่าจะไม่พอดีกับขนาดห้องนอน แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าที่นอนแต่ละขนาดมันยาวกี่เซ็นติเมตรกันแน่ และเตียงแต่ละประเทศนั้นก็จะมีมาตฐานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ฝั่งอเมริกา ยุโรป หรือคนอังกฤษก็จะมีเตียงที่เป็นสแตนดาร์ตของเขาเอง แม้แต่บ้านเราเองก็จะมีขนาดของเตียงหรือไซส์ที่เอาใช้ วันนี้แอดมินนำความรู้เกี่ยวกับขนาดของเตียงแต่ละประเทศมาแชร์ให้ทุกคนรู้กันค่ะ
มาตรฐานไซส์เตียงแต่ละประเทศ
อเมริกันสแตนดาร์ต (USA standard) ไม่ใช่ยี่ห้อสุขภัณฑ์ห้องน้ำแต่เป็นไซส์เตียงที่เป็นสแตนดาร์ตของอเมริกา ขนาดเตียงใกล้เคียงกับสแตนดาร์ตของคนไทย จะมีพิเศษ ไซส์ California King เตียงไซส์ใหญ่พิเศษ
Single/Twin 3.25ฟุต x 6.25ฟุต
Double/Full 4.5 ฟุต x 6.1ฟุต
Queen 5-5.5ฟุต x 6.6ฟุต
King 6.3ฟุต x 6.6ฟุต
California King 6ฟุต x 7ฟุต
ยุโรปเปี้ยนสแตนดาร์ต (European standard) ไซส์สแตนดาร์ตยุโรป มีอยู่ 4 ไซส์ด้วยกัน
Single /Twin 2.9ฟุต x 6.5ฟุต
Euro Double 4.4ฟุต x 6.2ฟุต
King 5.2ฟุต x 6.5ฟุต
Super King 5.9ฟุต x 6.5ฟุต
ไซต์ที่นอนของเอเชีย
King Size: จะมีขนาด กว้าง 6 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต
Queen Size: จะมีขนาด กว้าง 5 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต
Twin Size: จะมีขนาด กว้าง 3.5 ฟุต X ยาว 6.5 ฟุต
ในประเทศไทยแบ่งมาตฐานของที่นอนออกเป็น 3 ขนาด
ที่นอนขนาด 3.5 ฟุต (Twin size หรือ Single size)
มีขนาดประมาณ 106×198 เซนติเมตร (กว้างxยาว)
เหมาะสำหรับนอนคนเดียว ห้องนอนที่มีขนาดเล็ก หรือห้องนอนสำหรับเด็ก
ที่นอนขนาด 5 ฟุต (Queen size)
มีขนาดประมาณ 152×198 เซนติเมตร (กว้างxยาว)
เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดกลาง ผู้ที่นอนคนเดียวแต่นอนดิ้น หรือต้องการประหยัดพื้นที่ เช่น คอนโดมิเนี่ยม
ที่นอนขนาด 6 ฟุต (King size)
มีขนาดประมาณ 182×198 เซนติเมตร (กว้างxยาว)
เหมาะสำหรับนอน 2 คน ผู้ที่มีพื้นที่ในห้องนอน ก็สามารถนอนได้อย่างสบายๆเลย
ความหนาของที่นอนจะขึ้นอยู่กับรุ่นที่นอนแต่ละรุ่น ซึ่งมีตั้งแต่ความหนา 7นิ้ว ไปจนถึง 13.5นิ้ว
เลือกที่นอนอย่างไร…? ให้หลับสบาย ไม่ปวดเมื่อย
ที่นอนถือเป็นอีกสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีผลต่อการพักผ่อน รวมไปถึงเรื่องของสุขภาพ ซึ่งหากมีการเลือกที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้มีอาการปวดเมื่อย อีกทั้งการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่สบาย วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับการใช้งานและการพักผ่อนมาฝากกันค่ะ
1. ขนาดที่นอน
สำหรับขนาดที่นอนนั้นควรเลือกให้เหมาะกับจำนวนผู้ใช้งาน เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดขณะนอนพักผ่อน อีกทั้งยังช่วยให้หลับสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งหลักๆ แล้วที่นอนจะมีให้เลือก 3 ขนาดด้วยกันคือ
– King Size หรือ ที่นอน 6 ฟุต มีขนาดประมาณกว้าง 180 ซม. ยาว 195 ซม. (กว้าง 6 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต ) ถือเป็นที่นอนที่มีขนาดใหญ่ สามารถนอนได้ 2 คน แต่หากตัวไม่ใหญ่มากนัก ก็นอนได้ 2-3 คน กันเลยทีเดียว โดยที่นอน King Size นี้ จะเหมาะสำหรับห้องนอนที่มีขนาดใหญ่
– Queen Size หรือที่นอน 5 ฟุต มีขนาดประมาณ กว้าง 150 ซม. ยาว 195 ซม. (กว้าง 5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต ) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่นอน 6 ฟุตเพียงเล็กน้อย สามารถนอนได้ถึง 2 คน เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มีขนาดย่อมลงมา หรือ ต้องการประหยัดพื้นที่การใช้งานภายในห้อง
– Twin Size หรือ ที่นอน 3.5 ฟุต มีขนาดกว้าง 105 ซม. ยาว 195 ซม. (กว้าง 3.5 ฟุต ยาว 6.5 ฟุต ) ถือเป็นที่นอนที่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการนอนคนเดียว โดยส่วนใหญ่มักนิยมใช้กับห้องนอนเด็ก ซึ่งขนาดของห้องจะมีพื้นที่ ที่ไม่ใหญ่มากนัก
2. ความแข็งและการยุบตัวของที่นอน
มาต่อกันที่ความแข็งและการยุบตัวของที่นอน ซึ่ง Infinity Design ผ้าม่าน มองว่า ถือเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลต่อการพักผ่อน โดยการเลือกนั้นควรเลือกให้เหมาะสมและพอดีไม่แข็งหรือยุบตัวจนเกินไป เพราะอาจส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้ อาทิ
– ที่นอนที่แข็งมากจนเกินไป ด้วยความที่ไม่มีการยืดหยุ่น อ่อนนุ่ม จึงทำให้ที่นอนไม่โค้งเว้ารับกับสรีระของร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลในเรื่องของอาการชา ที่ไหล่ แขนและขา เนื่องจากมีแรงกดทับเส้นเลือกฝอยจากที่นอน รวมไปถึงอาการปวดต่างๆ ที่บริเวณคอและไหล่อีกด้วย
– ที่นอนที่ยุบตัวมากจนเกินไป จนเกิดเป็นแอ่ง เพราะเรามักจะนอนอยู่ที่บริเวณเดิมๆ จึงทำให้เกิดเป็นแอ่งได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดอาการกดทับบริเวณหมอนรองกระดูกได้ รวมไปถืออาการกระดูกสันหลังคด
Tip! หากที่นอนบ้านเพื่อนๆ แข็งหรือมีการยุบตัวมากจนเกิดเป็นแอ่ง แนะนำให้นำที่นอนยางพารามารองไว้บนที่นอนเดิม โดยเลือกความหนาที่เหมาะสม อาทิ ที่นอนแข็งควรใช้ความหนาประมาณ 2 นิ้ว ส่วน ที่นอนที่เกิดแอ่งควรใช้ความหนาประมาณ 6-8 นิ้ว เป็นต้น เพื่อช่วยลดอาการต่างๆ เนื่องจากที่นอนยางพารามีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
3. ประเภทที่นอน
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับประเภทของที่นอน ซึ่งปัจจุบันได้มีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย โดยแต่ละประเภทนั้นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆ แล้วจะมี 4 ประเภทด้วยกัน คือ
– ที่นอนสปริง ถือเป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะมีความยืนหยุ่น คืนตัวได้ดี รวมไปถึงการยุบตัวของที่นอนที่เข้ากับสรีระของร่างกาย ซึ่งเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบนอนตะแคง ด้วยการยุบตัวที่ดีของที่นอน จึงไม่ทำให้เกิดการกดทับ และ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ
แต่ทั้งนี้ควรดูในเรื่องของคุณภาพของที่นอนด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่มักเจอปัญหาที่นอนยุบตัวเป็นแอ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีค่ะ
– ที่นอนฟองน้ำ ถือเป็นที่นอนที่มีความนุ่มมากๆ แต่ไม่มีความยืดหยุ่นหรือคืนตัวเหมือนที่นอนสปริง ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดหลัง เพราะที่นอนไม่มีความยืดหยุ่นที่จะรองรับสรีระของร่างกายได้ อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่น้อยอีกด้วย
– ที่นอนยางพารา ถือเป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมกันมากในปัจจุบัน เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีการแอ่นของที่นอน ซึ่งช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้ดี อาทิ อาการปวดหลัง เป็นต้น อีกทั้งยังไม่กักเก็บฝุ่นและความชื้นต่างๆ อีกด้วย แต่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าที่นอนประเภทอื่นๆ
– ที่นอนใยมะพร้าว ถือเป็นที่นอนที่มีความอัดแน่นค่อนข้างสูง จึงทำให้ที่นอนนั้นแข็ง ไม่ยุบตัว ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้ง่าย อีกทั้งเมื่อเสื่อมสภาพ จะก่อให้เกิดฝุ่น ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ เมื่อเทียบกับที่นอนประเภทอื่นๆ